4 เทคนิคเพิ่มยอดขาย ร้านค้าปลีกนำไปใช้ได้จริง
ร้านค้าปลีกนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงเมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายสินค้าอื่น ๆ แต่ในส่วนของการเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าปลีก รวมถึงเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำเพื่อสร้างรายได้ให้เพิ่มมากขึ้น และเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น เจ้าของธุรกิจจะต้องให้ความใส่ใจกับทุก ๆ รายละเอียดของการบริหารงาน
วันนี้เอย์ออส (eyos) มีคำแนะนำและเทคนิคดี ๆ ในการเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าปลีกแบบง่าย ๆ มาฝากกัน อ่านจบแล้ว สามารถแชร์เพื่อบอกต่อและเก็บไว้ทำตามได้เลย!

อยากเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าปลีกของตัวเอง ต้องทำอย่างไร?
ส่วนมากแล้วร้านค้าปลีกรายย่อยตามชุมชนต่าง ๆ มักจะเป็นร้านค้าขนาดเล็ก แต่มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นอาหารแห้ง เครื่องดื่ม ของใช้ ไปจนถึงสินค้าสะดวกซื้อต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วร้านค้าขนาดเล็กเหล่านี้ จะเปรียบเสมือนร้านค้าประจำชุมชนเลยก็ว่าได้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ทำให้มีร้านค้าปลีกสมัยใหม่และซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดย่อยเกิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้ยอดขายในร้านค้าปลีกหลาย ๆ ร้านลดน้อยลง
เพราะฉะนั้นเจ้าของกิจการร้านค้าปลีก ต้องหาวิธีดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้จ่ายในร้านของคุณ และมัดใจกลุ่มลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าประจำให้ได้ โดยคุณอาจเริ่มต้นจากการจัดเรียงสินค้าให้เหมาะสมตามหลักจิตวิทยา ใช้ป้ายโฆษณาสินค้า ออกโปรโมชันที่น่าสนใจเป็นประจำ รวมถึงมีการเก็บข้อมูลด้านการขายเพื่อพัฒนาแผนทางการตลาดให้ดีมากยิ่งขึ้น
ไปดูกันดีกว่าว่าในแต่ละวิธีที่ได้กล่าวไปจะมีรายละเอียดอย่างไร เพื่อให้ร้านค้าปลีกของคุณได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น
จัดวางสินค้าให้เหมาะสมตามหลักจิตวิทยา
เปลี่ยนร้านค้าปลีกของคุณให้กลับมามีชีวิตชีวาและน่าสนใจกว่าที่เคยได้ง่าย ๆ ด้วยการจัดชั้นวางของให้เหมาะสมตามหลักจิตวิทยา ซึ่งแน่นอนว่าเป็นวิธีที่มีงานวิจัยอ้างอิงเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ตำแหน่งวางสินค้าที่เหมาะสมจะสามารถช่วยสร้างยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าลูกค้าจะไม่ได้วางแผนเพื่อซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ก็ตาม
จากงานวิจัยที่อ้างอิงโดย DKSH พบว่าผู้คนมากกว่า 70% ตัดสินใจซื้อสินค้าต่าง ๆ เมื่ออยู่ในร้านค้า และอีก 33% ของลูกค้ามักจะสอบถามพนักงานเมื่อต้องการตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นนั้น ๆ ส่วนกลุ่มลูกค้าที่มักจะเปลี่ยนแบรนด์ที่ต้องการซื้อในขณะที่กำลังดูสินค้าภายในร้านจะมีสัดส่วนน้อยกว่า โดยอยู่ที่ 28%
สิ่งเหล่านี้บอกอะไรกับเราได้บ้าง? จากงานวิจัยดังกล่าวทำให้เรารู้ว่าคนจำนวนมากเดินเข้าไปยังร้านค้าปลีกเพื่อซื้อสินค้าบางชิ้น และตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทอื่น ๆ ติดไม้ติดมือกลับมาด้วยถึง 70% ซึ่งเทคนิคในการจัดวางสินค้าที่ช่วยเพิ่มยอดขายนั้น คุณควรจัดเอาไว้บริเวณด้านขวามือของชั้นวางของ ซึ่งเป็นการจัดเรียงตามพฤติกรรมการมองหาสินค้าของผู้บริโภค และควรจัดสินค้าประเภทเดียวกันไว้ในบริเวณเดียวกัน แต่ถ้าคุณต้องการโปรโมตสินค้าที่มีโปรโมชันพิเศษ คุณก็สามารถสลับพื้นที่วางสินค้าเหล่านั้นไปยังบริเวณทางด้านขวาได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการวางสินค้าชิ้นเล็ก ๆ เอาไว้ที่บริเวณจ่ายเงินหรือแคชเชียร์ อย่างเช่นการวางลูกอม ขนมซองเล็ก ๆ หมากฝรั่ง ไฟแช็กหรือตู้น้ำดื่ม เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหยิบสินค้าในวินาทีสุดท้ายก่อนที่จะจ่ายเงิน
วิธีเหล่านี้เรียกว่าเป็นไปตามหลักจิตวิทยา เพราะการที่ลูกค้าเดินดูสินค้าในร้านค้า ก็จะได้รับการกระตุ้นเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ มาในระยะหนึ่ง และเมื่อเจอสินค้าที่ราคาไม่แพงอยู่ที่หน้าแคชเชียร์ ทำให้มีโอกาสสูงในการหยิบสินค้าเพิ่มนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องคอยตรวจสอบชั้นวางสินค้าให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อที่ลูกค้าจะได้ตัดสินใจซื้อได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
ใช้ป้ายเพื่อโปรโมตสินค้าภายในร้านค้าของคุณ
หากคุณนึกถึงร้านสะดวกซื้อขนาดกลางและขนาดใหญ่ คุณจะสังเกตได้ว่าบริเวณชั้นวางของมักจะมีป้ายติดเอาไว้เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าภายในร้าน และแน่นอนว่าเป็นวิธีที่คุณสามารถนำมาใช้กับร้านค้าปลีกของคุณได้เช่นกัน คุณสามารถทำป้ายโปรโมตสินค้าต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้วยการออกแบบและพิมพ์ป้ายเหล่านั้นออกมาติดบริเวณชั้นวางสินค้า หรือใช้การเขียนบนกระดาษแข็ง หรือป้ายขนาดเล็กเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า หรือจะเลือกใช้ป้าย New! เพื่อบ่งบอกว่านี่คือสินค้าใหม่ที่น่าลองใช้ หรือป้ายอย่าง Hot Item! เพื่อนำเสนอสินค้าขายดีติดอันดับ ก็สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายได้ดีไม่แพ้กัน
ป้ายโปรโมตสินค้าเหล่านี้ จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น แถมยังช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้สินค้าได้ดี อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ลงทุนน้อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเลยทีเดียว
จัดโปรโมชันเป็นประจำเพื่อดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำ
ใครบ้างที่ไม่ชอบส่วนลดและโปรโมชัน? หากคุณต้องการเพิ่มยอดขายของร้านค้าปลีกให้มากยิ่งขึ้น หนึ่งในสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือการจัดโปรโมชันและแจกส่วนลดเป็นประจำ เพื่อทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าภายในร้านของคุณ แทนที่จะไปร้านอื่น ๆ ที่ไม่มีโปรโมชัน หรือร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ซึ่งการจัดโปรโมชันนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ส่วนลดเป็นจำนวนมาก แต่สามารถจัดโปรโมชันเล็ก ๆ ได้ อย่างเช่น ซื้อชิ้นที่ 2 ลดเพิ่ม 5 บาท เพื่อช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าหยิบสินค้าจำนวนมากชิ้นขึ้น หรือเลือกจัดโปรโมชันให้กับสินค้าที่ใกล้หมดอายุ ลดจัดหนักครึ่งราคา หรือเลือกใช้คำว่าซื้อ 1 แถม 1 ก็ช่วยทำให้สินค้าดูน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น แถมทางร้านก็ได้ระบายสินค้าออก และลูกค้าได้สินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัดไปใช้
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีโปรโมชันที่สามารถดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ในระยะเวลาสั้น ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างการจัดโปรโมชันสำหรับการแลกซื้อสินค้า เช่น ซื้อสินค้าภายในร้านครบ 100 บาท สามารถแลกซื้อสินค้าอื่น ๆ ได้ในราคาที่กำหนดเอาไว้ วิธีนี้นอกจากจะช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าภายในร้านแล้ว ยังจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับลูกค้าอีกด้วย หรือจะเลือกใช้วิธีที่น่าสนใจอย่างการเก็บสะสมแต้มเพื่อแลกรับส่วนลด อย่างเช่น ทุก ๆ ยอดใช้จ่าย 50 บาท รับแต้มสะสม 1 แต้ม เมื่อสะสมครบ 10 แต้ม สามารถนำมาแลกเป็นส่วนลดได้ 20 บาท เป็นต้น วิธีเหล่านี้จะเป็นการช่วยเพิ่มทั้งยอดขาย และช่วยเปลี่ยนลูกค้าขาจรให้กลายมาเป็นลูกค้าขาประจำได้อย่างง่ายดาย
เก็บข้อมูลการขายเพื่อเลือกสินค้าได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
คุณเชื่อในพลังของข้อมูลหรือไม่? ยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง การรู้จักผู้บริโภคและสามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้คุณได้เปรียบเหนือคู่แข่งมากเท่านั้น โดยเฉพาะในตอนนี้ที่ข้อมูลทุกอย่างถูกจัดเก็บได้อย่างง่ายดาย ผ่านระบบจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ การใช้ข้อมูลเพื่อนำมาพัฒนาสินค้า บริการและโปรโมชันนั้นจึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหล่าเจ้าของธุรกิจร้านค้าปลีกสามารถทำได้
สำหรับร้านค้าปลีกแล้ว การเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า สต๊อกสินค้าและการจำหน่ายสินค้านั้นสามารถทำได้ง่ายดายกว่าแต่ก่อน ลืมเรื่องกระดาษ สมุดและปากกาที่ใช้จดตัวเลขต่าง ๆ ไปได้เลย เพราะปัจจุบันนี้มีโปรแกรม POS สำหรับร้านค้าปลีกฟรี ที่ให้คุณได้เลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งโปรแกรมขายหน้าร้านเหล่านี้มักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์การจัดเก็บข้อมูลการซื้อ การขายสินค้า การใช้ส่วนลด รวมไปถึงการสรุปข้อมูลต้นทุน และกำไร เพื่อให้คุณสามารถใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการจัดการสินค้าภายในร้านได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น จากข้อมูลการขายตลอดเดือนที่ผ่านมาพบว่า ลูกค้าเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อ A มากกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่คุณต้องการขายน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อ B มากกว่า เพราะได้กำไรเยอะ ก็สามารถไปปรับเปลี่ยนตำแหน่งของสินค้าบนชั้นวาง เพื่อให้ถูกต้องตามหลักจิตวิทยา จากนั้นทำการเก็บข้อมูลหลังจากเปลี่ยนตำแหน่งสินค้า แล้วบันทึกผลว่าสามารถขายน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อ B ได้มากขึ้นจริงหรือไม่ นอกจากนี้ก็ยังสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการจัดสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย สินค้าไหนที่มียอดขายสูง ก็สามารถสั่งสินค้าในปริมาณที่มากขึ้นมาไว้ได้เลย เพื่อให้ได้ราคาส่งที่ถูกลง สินค้าไหนที่ขายไม่ดี ก็อาจจะพิจารณาตัดออกไป หรือเลือกเติมสต๊อกน้อยลงนั่นเอง
เริ่มต้นเก็บข้อมูลการขาย จัดโปรโมชันและแจกส่วนลดได้ด้วยเอย์ออส (eyos)
เอย์ออส (eyos) คือโปรแกรมขายหน้าร้านที่เปิดให้เจ้าของธุรกิจร้านค้าปลีกสามารถใช้งานได้ฟรี เพียงแค่คุณมีเครื่อง POS ระบบ Windows และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลา คุณก็สามารถลงทะเบียนเพื่อเริ่มต้นใช้งานโปรแกรมขายหน้าร้านจากเราได้ง่าย ๆ เพียงคลิกที่นี่ โปรแกรมของเราจะช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บข้อมูลการขายได้อย่างครบถ้วน พร้อมรับโปรโมชันและส่วนลดเป็นประจำทุกเดือนจากแบรนด์ใหญ่ ๆ โดยตรง โดยที่ร้านไม่ต้องลงทุนแม้แต่น้อย พร้อมรับเครดิตเงินคืนได้ทุกเดือนจากส่วนลดที่ถูกใช้งาน เลือกเอย์ออส (eyos) เพื่อการจัดการร้านค้าปลีกที่ดีกว่า ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง ให้เราเป็นผู้ช่วยธุรกิจของคุณ